ความเป็นมา
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาใช้รูป “พระเกี้ยว” เป็นตราประจำโรงเรียนมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๐ ครั้งก่อตั้งโรงเรียน เนื่องจากในตอนนั้นเป็นหน่วยงานหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งรัชกาลที่ ๖ ได้พระราชทานรูปตราพระเกี้ยวให้จุฬาฯ ใช้เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยรูป “พระเกี้ยว” นี้มีที่มาจากตราประจำรัชกาลหรือพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ ๕
ตราพระเกี้ยวของจุฬาฯ ที่ใช้ตั้งแต่แรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ มีหลายรูปแบบ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๑ จุฬาฯ ได้ออกแบบตราพระเกี้ยว
ใหม่โดยอิงจากตราดั้งเดิมในประกาศราชกิจจานุเบกษา และได้ประกาศให้ใช้เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยเพียงรูปแบบเดียว ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับตรา “พระเกี้ยวเตรียม” นั้น ในช่วง พ.ศ. ๒๔๘๐ – ๒๔๙๐ ซึ่งยังเป็นหน่วยงานอยู่ในสังกัดจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และใช้ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย” ก็ได้ใช้ตราพระเกี้ยวบางรูปแบบของจุฬาฯ ในเอกสารต่าง ๆ ของโรงเรียน
จนถึงปัจจุบันนี้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ใช้ตรารูปพระเกี้ยวหลายรูปแบบ ทั้งที่นำบางแบบของจุฬาฯ มาใช้ และที่เขียนขึ้นเอง จนระยะหลังมีการใช้รูปตราพระเกี้ยวหลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดความสับสนและไม่มีความชัดเจนว่ารูปแบบไหนคือตราประจำโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
จนกระทั่งเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๑ โรงเรียนจึงได้เริ่มใช้รูปตราพระเกี้ยวใหม่นี้ ที่เขียนขึ้นจากสัดส่วนเค้าโครงของรูปพระเกี้ยวที่เป็นปูนปั้นบนหน้าตึก ๒ ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๘๑ และยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน รูปพระเกี้ยวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ต่างจากรูปพระเกี้ยวอื่น โดยเฉพาะรูปทรงของเส้นรัศมีที่มีจำนวน ๑๕ เส้น เพื่อให้เป็นตราประจำโรงเรียนที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ที่มาเพียงรูปแบบเดียว
วิธีนำภาพไปใช้ ทุกภาพเป็นไฟล png ความละเอียดสูง พื้นหลังโปร่ง สามารถกด save ไปใช้ได้เลย
เรื่องราวของรูปแบบพระเกี้ยวเตรียมฯ
รูปตราพระเกี้ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญของพระราชลัญจกรหรือตราประจำรัชกาลที่ ๕ ซึ่งประชาชนหรือองค์กรใด ๆ ไม่ควรนำไปใช้เป็นตราของตัวเองโดยอำเภอใจ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากรัชกาลที่ ๖ ให้ใช้รูปตราพระเกี้ยวสืบต่อจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ ที่มีกำเนิดสืบต่อมาจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ซึ่งรัชกาลที่๕ ทรงโปรดเกล้าให้ตั้งขึ้นในพระบรมมหาราชวังในปี พ.ศ.๒๔๔๒ และเปลี่ยนมาจนกระทั่งเป็นจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในปี พ.ศ.๒๔๕๙ ได้มีการออกแบบตราพระเกี้ยวของมหาวิทยาลัยอยู่หลายแบบในเวลาต่อ ๆ มา ทำให้แต่ละหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยใช้รูปตราพระเกี้ยวไม่เหมือนกัน จนกระทั้งในปี พ.ศ.๒๕๓๑ มหาวิทยาลัยจึงกำหนดรูปแบบตราพระเกี้ยวให้ใช้เหมือนกันทั้งหมดเพียงแบบเดียวจนถึงปัจจุบัน
สำหรับตราพระเกี้ยวของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ.๒๔๘๐ ถึง ๒๔๙๐ โรงเรียนเตรียมฯ เป็นหน่วยงานในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ใช้ตราประจำโรงเรียนตามต้นสังกัด และก็ใช้อยู่หลายแบบพร้อมกันด้วยเช่นเดียวกัน จนถึงปลายปี ๒๕๖๑ จึงได้เริ่มมีการใช้รูปแบบอย่างในรูปด้านบนนี้ ซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันเพียงแบบเดียว
พระเกี้ยวเตรียมฯ รูปแบบแรกและมีปรากฎอยู่มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า ๘๐ ปี ก็คือปูนปั้นรูปพระเกี้ยวที่หน้าตึก ๒ ซึ่งใช้เป็นต้นแบบของรูปตราพระเกี้ยวเตรียมในปัจจุบัน และเป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนเส้นรัศมีรอบปลายยอดพระเกี้ยวมีจำนวน ๑๕ เส้น ซึ่งไม่เคยมีปรากฎในรูปตราพระเกี้ยวของที่อื่นเลย รวมถึงของจุฬาฯด้วย
ในช่วงเวลา ๘๐ ปีที่ผ่านมา โรงเรียนเตรียมฯ ใช้รูปพระเกี้ยวแบบของจุฬาฯ บ้าง ออกแบบเองบ้าง มีจำนวนเส้นรัศมีตั้งแต่ ๑๒, ๑๕, ๑๗, ๑๙ จนถึง ๒๑ เส้น บางทีก็ใช้ตราพระเกี้ยวของจุฬาฯ เลย และมีที่นำมาแก้ไขลดเส้นรัศมีจาก ๓๑ เส้นเหลือ ๑๗ เส้นด้วย
แต่รูปแบบที่ชินตาและใช้อยู่นานกว่าแบบอื่น ๆ คือแบบของจุฬาฯ แบบหนึ่งที่ใช้ในช่วงประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๐ – ๒๕๓๐ ซึ่งมีเส้นรัศมี ๑๙ เส้น แต่ตอนนั้นโรงเรียนเตรียมฯ ได้ออกจากสังกัดจุฬาฯ มานานแล้ว ซึ่งต้องถือว่าเป็นคนละสถาบันคนละองค์กรกัน ต่อมาก็ดัดแปลงรูปนั้นให้เหลือเส้นรัศมี ๑๗ เส้น แล้วก็ใช้มาอีกเป็นสิบปี แต่ก็ยังเป็นต่างคนต่างใช้ไม่เหมือนกันอยู่ประมาณ ๕-๖ แบบ บางแบบก็ใช้ทั้งที่มีเส้นรัศมี ๑๗ เส้นและ ๑๙ เส้นในช่วงเวลาเดียวกัน
จนกระทั่งมาถึงรูปแบบปัจจุบัน (4 รูปด้านบนสุด) ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (พญาไท) โดยมีต้นแบบมาจากปูนปั้นรูปพระเกี้ยวบนหน้าตึก ๒ ที่ปรากฎตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๒ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเส้นรัศมี ๑๕ เส้นและรูปทรงของรัศมีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งนี้มาตลอด ๘๐ กว่าปี